เรียนภาษาที่ไหนดีกว่ากัน และถูกกว่า
 
  เรียนอีกปีหนึ่งก็จะจบตรีแล้ว อยากเรียนภาษาต่อ
ไม่ทราบว่าที่ไหนดีกว่ากัน และถูกกว่า ระหว่าง แคนาดา กับ
นิวซีแลนด์เกาะใต้ แล้วค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร
ช่วยตอบหน่อยนะ อยากรู้
 
 
  nice girl
[16 March 2006 , ]
 
     #1
 
ค่ะ พี่เปรียบราคาค่าใช้จ่ายของสถาบัน GEOS ให้นะคะ ตอนนี้ที่
พี่ๆที่เรียนนอก จัดโปรโมชั่นให้ ส่วนลด $100
สำหรับคนที่สมัครเรียน ในวันที่ 24 มีนานี้ (เฉพาะNorth
America) เท่านั้น พี่ลองเปรีบยค่าใช้จ่ายดูแล้ว ห่างกัน แค่
Week ละ 100 กว่าบาท นะคะ
ถ้าไป NZ เรียนภาษา 12 wks ขึ้นไปจะตกอยู่ที่ NZ$3000 กว่าๆ
ส่วน CAN น้องจะได้รับ เรยนฟรี ภาษาฝั่งเศสด้วยนะคะ
ราคาอยู่ที่ประมาณ CAD$ 2000กว่าๆ
(ยังไม่รวมส่วนลดค่าเรียนที่จะได้รับ จากเรียนนอกนะคะ)
ถ้าน้องสนใจ ลองแวะเข้ามาคุยนะคะ หรือโทรเข้ามาจองที่ วันที่
24 มีนา นี้ก่อนก็ได้ค่ะ
 
 
  Riannok.com
[17 March 2006 , ]
 
 
     #2
 
ขอบคุณนะคะที่สนใจศึกษาต่อ
เรียนที่นิวซีแลนด์ถูกกว่าอยู่แล้วคะเพราะเปรียบเทียบกับค่าครอ
งชีพและอัตราแลกเปลี่ยน แตกแต่งกันมาก
ดังนั้นจะขอแนะนำที่เรียนที่ NZ เพราะในช่วงนี้เรามี promotion
price for thai student อยู่คะ
คอร์สภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็นหลายหลักสูตรด้วยกัน ดังนี้

1. General English : ภาษาอังกฤษทั่วไป หรือบางสถาบันเรียกว่า
Intensive English
คอร์สนี้นักเรียนสามารถเข้าเรียนได้ตลอดทั้งปี
โดยจะเน้นทักษะทั้งสี่ คือทางด้าน Listening, Speaking,
Reading, และ Writing
เป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนรู้ฝึกฝนภาษาอั
งกฤษ
เพื่อจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ
เพื่อปูพื้นฐานสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อระดับสูงขึ้นไป

นักเรียนสามารถกำหนดระยะเวลาที่ต้องการลงทะเบียนได้
( ส่วนใหญ่ จะลงเรียนระยะเวลา 3, 6, 9, 12 เดือน )
ค่าเรียนประมาณ NZ$ 250 – 350 / week (
ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและสถาบัน ที่ลงเรียน )

2. EAP : English for Academic Purpose :
ภาษาอังกฤษเพื่อจุดประสงค์ทางวิชาการ

เป็นคอร์สที่เหมาะกับนักเรียนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษระดับหนึ่ง
แล้ว
และต้องการจะเตรียมตัวเพื่อเข้าไปเรียนระดับสูงขึ้นไป
คอร์ส EAP
จะเป็นการเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมด้านต่างๆดังนี้

• จับใจความสำคัญของเนื้อหาที่อาจารย์สอน
( สำหรับการ lecture ในระดับชั้นอุดมศึกษา มหาวิทยาลัย )
• พัฒนาทางด้านการเขียนรายงาน
• เน้นคำศัพท์ทางด้าน Academic
• วิธีการนำเสนอ ( Presentation ) การสัมมนา ( Seminar )
โดยนักเรียนที่สามารถเข้าเรียนหลักสูตรนี้
จำเป็นจะต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ที่สถาบันกำหนด
ทางสถาบันจะมีบททดสอบก่อนรับเข้าเรียน

3. IELTS/TOEFL Preparation Course :
ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ IELTS / TOEFL
จะเน้นการฝึกทักษะ เทคนิคการทำข้อสอบ
ระยะเวลาของคอร์ส ประมาณ 4 – 10 สัปดาห์ (
ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน )
เนื่องจาก เป็นการเตรียมความพร้อมในการสอบ IELTS/TOEFL
นักเรียนจะต้องเรียนอยู่ในระดับภาษาอังกฤษที่ทางสถาบันกำหนด
หรือผ่านการทดสอบเพื่อจะเข้าไปเรียนโดยข้อสอบของสถาบัน
( คะแนน IELTS ที่ใช้ยื่นสมัครระดับ ประกาศนียบัตร/ปริญญาตรี
ประมาณ 5.5 - 6.0
และระดับปริญญาโทประมาณ 6.5 - 7 .0)

*** สถาบันสอนภาษาใน New Zealand นี้ จะมีให้เลือกหลายที่นะคะ
จะมีทั้งที่เรียนในมหาวิทยาลัยโดยตรง
หรือสามารถเรียนที่สถาบันสอนภาษาก็ได้คะ มีดังนี้
1. GEOS จะมีอยู่ที่ Auckland, Christchurch และ Wellington
2. Christchurch College of English
3. ABC College of English

Tuition Fee
(Full Time 25 hours per week)
24 สัปดาห์ ( 6 เดือน ) 152,880 - 199,680
36 สัปดาห์ ( 9 เดือน ) 229,320 - 299,520
45 สัปดาห์ ( 1 ปี ) 286,650 - 374,400
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
13-14 ชั้น3 ฟอร์จูนทาวน์ 7 ถ.รัชดาภิเษก ดินแดง กรุงเทพฯ
10400.
โทร : +66 ( 0 ) 2 642 0371-5
แฟกซ์ : +66 (0 ) 2 642 0370
tiedu@riannok.com or www.riannok.com

 
 
  riannok.com
[17 March 2006 , ]
 
 
     #3
 
ก็ยังแพงอยู่ดีค่ะ
พี่ชายเรียนอยู่เมกา ค่าเรียนเทอมนึงยังไม่ถึงแสนเลยค่ะ
แล้วเรียน รร สอนภาษา
กับในมหาลัยโดยตรงอันไหนดีกว่าและถูกกว่าคะ
 
 
  very nice girl
[17 March 2006 , ]
 
 
     #4
 
ที่บอกว่าถูกต้องดูว่าเป็นโรงเรียนแบบใหน
เรียนในมหาวิทยาลัยย่อมดีกว่า
สนใจให้ค้นหาก็โทรนัดเจ้าหน้าท่ที่ 02-6420371-5
 
 
  Riannok.com
[18 March 2006 , ]
 
 
     #5
 
ที่ไหนก็ได้ แต่อย่าที่wallstreet ลงไป 7หมื่นกว่า เรียนภาษาที่ wallStreet เจอครูต่างชาติ1 เดือนแค่2 ชั่วโมง ตอนนี้

ลงเงินไป 7 หมื่นกว่า เรียนภาษาที่ wallStreet ตอนนี้ จะเป็นโรคประสาทแล้วค่ะ ใครมีวิธีช่วยแนะนำหน่อย จะทำอย่างไร เหมือนโดนหลอก กู้ บัตร มาเรียนด้วย เงินก็ไม่พอใช้ ประสาทแล้วค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า ได้ไปติดต่อเรียน WallStreet ลงไป 7 หมื่นด้วยการหลอกล่อของ sell และทางsellที่ขาย บอกว่า จะได้เรียน 2 อย่าง และ กิจกรรม อีก 3 อย่าง และ จะเริยนทุกวันก็ได้ จะกี่ครั้งก็ได้ตั้ง 18 เดือน ดูคุ้มค่ามาก

1.ลง lab เรียนกับ com พอเอาเข้าจริง ก็ไปฟังใน com และพูดตาม ประโยคฟังก็ประมาณ 15 นาที และก็ฝึกฟังและพูดไปๆมามา กับประโยคเดิมๆ และก็ทำแบบฝึกหัด รวมก็ ครั้งหนึ่งก็ 2 ชม. ต้องลงให้ครบ 3 ครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์ ถึงจะได้เจออาจารย์

2.จากนั้นก็ เรียนกับอาจารย์ ต่างชาติ 1 ชม 4 คน ต่อ 1 ห้อง (จุดเสียเปรียบ ที่เจอ 1 เดือน ได้เรียนกับ อาจารย์ต่างชาติแค่2 ครั้ง ซึ่งก็คือ 2 ชม)

ส่วนกิจกรรมดังนี้
1.กิจกรรม กลุ่ม อันนี้ คือ ให้จอง และฝึกกันเอง โดยมีอาจารญ์ต่างชาติ นำ ครั้งละ 1 ชม (ปัญหาที่เจอ class หนึ่ง ลงจองกันไม่ต่ำ กว่า 20-30 คน เยอะเกินไป ได้อะไรน้อย และมีแค่วันละ 2 รอบ คือ บ่าย2 และ 1 ทุ่ม ทุกวัน)
2.กิจกรรม ย่อย อันนี้ คือ ให้จอง และฝึก โดยมีอาจารญ์ เป็นเด็กๆวัยรุ่น ที่เรียนจบต่างประเทศ มา สอน ครั้งละ 1 ชม มี วันละ 4- 5 รอบ แต่ รอบสุดท้าย คือ 5โมงเย็น และ เสาร์ อาทิตย์ มีรอบเดียว คือ บ่าย 2โมง ลงได้วันละ 1 ครั้ง (class นี้ ดีมาก ถ้า ใครลงจองได้บ่อยๆ คุ้ม ถึงจะเป็นเด็กมาสอน แต่ ปัญหาที่พบ คือ มี สอนแต่ ช่วงเวลาทำงาน)

ที่wall street ใครคิดจะเรียน คิดให้ดี แพงมาก การตลาด เขาดี มาก
1.จะเช็คคุณทุกอย่าง เงินเดือน มีบัตรเครดิตไหม ฐานะเป็นอย่างไร พอเก็บข้อมูลคุณได้ จะใช้ sell หลอกล่อคุณ และให้คุณ จ่ายก้อนใหญ่ ถ้าไม่จ่ายก็ไม่มี คอร์สเล็กให้ลง
2. และต้องคุย ผ่าน sell คนที่ติดต่อคุณเท่านั้นในครั้งแรก ซึ่ง จะ record ชือคุณไว้แล้ว เขาจะไม่บอกคุณ ถ้าไปติดต่อคนอื่น เพราะแต่ละคน ให้ข้อมูล หรือ หลอกล่อคุณ ไม่เหมือนหัน และจะอ้างว่า sell นั้นคือ ผู้ให้คำปรึกษาส่วนตัว(personal consultant) ซึ่งทำให้ดูดี
3. เขาเจาะตลาด คนมีบัตรเครดิต เป็นส่วนมาก โดนเขาเก็บเงินคุณจาก bank ที่contact ที่ปล่อยกู้โดยใช้สิทธิ์บัตรเครดิตคุณ แล้วคุณก็ผ่อนต่อไป 7 หมืนบาท
4.ใช้ หลักการบอกว่า จะเรียนกีครั้งก็ได้ ใน แต่ละอย่าง ทำให้ดูดี คุ้ม ซึ่ง จาก %เฉลี่ย ส่วนมากเป็นไปไม่ได้
5.อ้างมี ติวเตอร์ ส่วนตัว Personal Tutor สอนเสริม เวลาไม่เข้าใจ ทำให้ ดู หลักสูตร ดูดีมาก แต่ มันเป็น แค่ minor เพราะ วันหนึ่งที่ไปเรียน จะได้คุยกับ tutor ไม่เกิน 10 นาที
6.อ้างว่า เรียนกับ อาจารย์ต่างชาติ กลุ่ม เล็ก นาน ตั้ง 18 เดือน
7.ชอบอ้างถึงคนที่ประสพความสำเร็จ ที่เรียนที่นี่ ซึ่ง คนที่อ้าง ส่วนมาก เขาเก่งอยู่ก่อนแล้ว พวกเด็กไบร์ทใน จุฬา เด็ก เตรียม อุดม พวกน้ มัน ไบร์ท อยู่แล้ว เขาไม่เรียนที่นี่ เขาก็เก่งอยู่แล้ว
8.คนที่ทำงาน ในนั้น ส่วนใหญ่ เก่งภาษาทั้งนั้น เพราะ จบ นอก จบ จุฬา หรือ ที่ดีดี มาทั้งนั้น และ ก็ อ้างว่า ได้ ภาษา เพราะเรียนที่นี อย่าง call center ก็ เรียน วารสารมา

สรุป นะ เหมือนโดนหลอกเลย เท่าที่รู้มา คือการป้อนให้ เป็นสิ่ง ที่จะเรียนรู้ ได้ไว กว่า 5-6 เท่า ของการเรียนเอง แต่นี่ เจออาจารย์แค่ 2 ชั่วโมงต่อ 1 เดือน รวม ทั้งหลักสูตร 18 เดือน เจออาจาย์ 36 ชั่วโมง ยังเรียนเป็นกลุ่มอีก(4คน) รู้ สึกเสียดายเงินมากๆ เพราะ ดิฉันทำงาน 6 วัน เรียนได้เฉพาะตอนเย็น ไม่สามารถ ลง กิจกรรมย่อยได้เลย เพราะ รอบสุดท้าย 5โมงเย็น เลิกงาน กว่าจะไปถึงก็เลิกแล้ว รถมันติด มีวันอาทิตย์ วันเดียวก็แย่งกันจนเต็ม ตอนเย็นก็เรียนได้แต่ lab เรียนกับ com เหมือนอ่านหนังสือเลย ดีกว่าหน่อย และ เดือนหนึ่งเจออาจารย์ต่างชาติ แค่ 2 ชั่วโมง ไม่คุ้ม กับที่เสีย 7 หมื่น เลย เหมือนโดนหลอกเลย 2 ชั่วโมง กับการฝึก skill ใน 1 เดือน มันน้อยเกินไป น้อยๆๆๆ มากกๆๆๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะพูดได้ และ เป็นการลงทุน ที่ต่ำมาก ของ wallStreet และ ใช้ การตลาดเข้าสู้ ที่มาเลย์ ที่สถาบัน cyber link คอรส์ 6 เดือน 8 หมื่นบาท ยังเจออาจารย์ต่างชาติ ตั้ง 5 วันๆ ละ 6 ชั่วโมง สรุป 1 เดือนเจอ 120 ชั่วโมง ได้ฝึก skill มันคนละเรื่องเลย

ที่เขียนมาก็อยากเตื่อนทุกคน ที่จะไปเรียนที่นี คิดให้ดี ภาษาไม่ได้ มันก็เคลียด พอแล้ว อย่ามากู้หนี้ยืมสิน เคลียดเข้าไปอีก แถมได้มา ก็ไม่คุ้ม เหมือนโดนหลอก ไปคุยกับ sell มันบอกได้หมดแหละ ดีหมด ไม่รู้ หลักสูตรแบบนี้ มันผ่านกระทรวงศึกษามาได้อย่างไร สงสารบ้านเราจริง ที่รู้มา ธุรกิจพวกนี้ มันหลอกในโซนประเทศ ที่กำลังพัฒนา อย่าง ไทย อินโด เวียดนาม มันเป็นของฮ่องกง ร่วมกับคนในประเทศนั้น ทั้งหมดนี้แค่ความคิดเห็นส่วนตัว นะ ลงคิดดูเอา แต่ใจ ไม่อยากให่ผู้อื่น มีความรู้สึกเหมือนดิฉัน

 
 
  น้อง
[16 April 2008 , ]
 
 
     #6
 

จริงอย่างที่ข้อความที่5บอก

 

wall street

เราลงเรียนไปคอร์ท ใหญ่แสนกว่าเรียนได้ประมาณ2เดือน

เลิกเรียน เสียดายเงินมาก ขายต่อก็ไม่ได้

นักเรียนส่วนมากไม่ค่อยมีคนเรียนจบ เสียตังฟรีทั้งนั้น

เพราะสอนน่าเบื่อ วันๆให้นั่งกดแต่คอม นานๆจะเจออาจารย์ซักที

นอกนั้นนั่งกดแต่คอม ขับรถไปเรียนก็แสนไกล ไหนจะคค่าที่จอดรถอีก แต่ต้องไปนั่งกดคอมพิวเตอร์

ตอนแรกตัดสินใจเรียน เพราะคิดว่าจะได้เรียนกับอาจารย์ทุกครั้ง

แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดจะได้เจกัยอาจายร์ต่อเมื่อสอบเท่านั้น และ

เมื่อทำกรรมกรรมกะเพื่อน ซึ่งนานๆมีที 

เวลาไปสมัครก็มักจะบีบให้ลงคอร์ทใหญ่ๆ  บอกว่าจาได้คอร์ทแถมจะคุ้มกว่า

สรุปเสียตังกันฟรีทั้งนั้น  ก็แล้วแต่นะ

อันนี้ประสบมากะตัวเอง เลยมาบอกเพื่อนๆไม่อยากให้เสียตังเหมือนเราอะ

เก็บราคาโหดมากแต่สิ่งที่ได้ คือไม่มีอะไรเลย  เสียตังฟรีเสียดายมากรู้งี้เก็บเงิน  

อีกหน่อยไปเรียน นอกได้เลย ก็แล้วแต่นะ แค่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆ

 

 
 
  pat
[19 May 2009 , 19]
 
 
     #7
 
Philippe Starck Bedside gun lamp
Wilhelm Wagenfeld Bauhaus Lamp Glass Base
Flos Miss K table lamp
Pio and Tito Toso Blow Table Lamp
Vico Magistretti Atollo Table Lamp
Flos Spun Light T1 table lamp
Flos Spun Light T1 floor lamp
Achille Castiglioni Arco floor Lamp
Poul Henningsen Artichoke lamp
Verner Panton Globe pendant
Poul Christiansen Le Klint 172 Pendant Lamp

lamp
design lamp
design lamps
modern classic lamp
classic lamp
modern lamp

table lamp
floor lamp
pendant lamp
wall lamp
ceiling lamp
outdoor lamp

table lamps
floor lamps
pendant lamps
wall lamps
ceiling lamps
outdoor lamps

designer
Arne Jacobsen
Achille Castiglioni
architect Poul Christiansen
Antonio Citterio and Toan Nguyen
De Lucchi and Fassina Tolomeo Clip
Ernesti Gismondi
Gino Sarfatti
Jasper Morrison
Poul Henningsen
Piet Hein
Philippe Starck
Pio and Tito Toso
Pier Giacomo and Achille Castiglioni
Patricia Urqiola and Eliana Gerotto
Sebastian Wrong
Vico Magistretti
Verner Panton
Hopf and Wortmann
Simon Karkov
Wilhelm Wagenfeld
Tom Dixon

Artichoke lamp

 
 
  designlamps
[10 September 200]