UK

      icon_newP R O M O T I O N !! เพียบ..สถาบันสอนภาษา มหาวิทยาลัย.. Click เลย


United Kingdom

ข้อมูลทั่วไปประเทศอังกฤษ

สหราชอาณาจักรอังกฤษ ดินแดนที่มีภูมิประเทศสวยงาม เป็นประเทศที่มีความเจริญทางวัฒนธรรม การอุตสาหกรรม การศึกษา ศูนย์รวมแหล่งวัฒนธรรม เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ คำเรียกประเทศอังกฤษนั้นเรา มักจะพบเห็นในความหมายที่เรียกแตกต่างกันดังนี้คือ

      1.   คำว่า สหราชอาณาจักร (United Kingdom) หมายถึง เกาะใหญ่ (Great Britain) และแคว้นไอร์แลนด์เหนือ (Northern Island)
      2.   คำว่า เกรดบริเทน (Great Britain) หมายถึงเกาะใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งรวมอาณาเขตอังกฤษ (England) เวลส์ (Wales) และ สก๊อต                 แลนด์ (Scotland)
      3.   คำว่า อังกฤษ (England) หมายถึงเกาะใหญ่ที่ไม่รวม เวลส์ และ สก๊อตแลนด์

สภาพแวดล้อม

สภาพภูมิอากาศของ เกรท บริเทน (Great Britain) จัดอยู่ในประเภทค่อนข้างหนาว มีความชื้อสูง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ มีกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นไหลผ่าน ทำให้เกิดหมอกหนาแน่นปกคลุมในบางครั้ง ทางตอนเหนือจะหนาวมากกว่าทางใต้ และจะมีฝนตกทางทิศตะวันตกมากกว่าทางทิศตะวันออก เดือนที่ฝนตกน้อยคือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฏาคม อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนมกราคม 4 องศาเซลเซียส และสูงสุดในเดือนกรกฏาคม 18 องศาเซลเซียส

       ฤดูกาลมีทั้งหมด 4 ฤดู คือ

  • ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เดือนมีนาคม – พฤษภาคม อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก บางวันอากาศอบอุ่น มีแสงแดดจัดในตอนเช้า และเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วเป็นหนาวเย็น หรือ ฝนตกในช่วงบ่าย
  • ฤดูร้อน (Summer) เดือนมิถุนายน – สิงหาคม อากาศส่วนใหญ่อบอุ่นและแสงแดดจัดจ้า
  • ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เดือนกันยายน – ฑฤศจิกายน อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีสวยงามและร่วงหล่น
  • ฤดูหนาว (Winter) เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อากาศช่วงนี้จะหนาวมากที่สุด มีหิมะตกในบางพื้นที่ กลางคืนจะยาวกว่ากลางวันและมืดเร็วกว่าปกติ

สถานที่น่าสนใจ

  • ลอนดอน (London) เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเมืองหลวงของสหราชอาณาจักร เป็นเมืองที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรม ประเพณีในรูปแบบที่เคร่งครัด และมีแบบแผนเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการศึกษาต่อและท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น รัฐสภา หอนาฬิกาบิกเบน ทราฟัลการ์สแควร์ พระราชวังบัคกิงแฮม และหอคอยลอนดอน นอกจากนี้กรุงลอนเอน ยังเพียบพร้อม ด้วยแหล่งบันเทิงและชีวิตยามค่ำคืนที่ย่านโซโห และยังเป็นแหล่งศูนย์รวมของการ ช้อปปิ้งชั้นนำ เช่น ห้างแฮร์ล็อด และ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ เป็นต้น
  • เคมบริดจ์ (Cambridge) เมืองเคมบริจด์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และการศึกษาเริ่มแรก เป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเคมบริจด์ เป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง
  • อ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford) เมืองออกซ์ฟอร์ด เป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน เป็นเมืองเกี่ยวข้องกับศาสนา ตั้งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร เป็นเมืองที่แวดล้อมด้วยทุ่งกว้างใหญ่ ทิวเขาและมีแม่น้ำเทมส์ไหลผ่าน ภายในเมืองมีสถาปัตยกรรมที่งดงามตามแบบฉบับอังกฤษหลายแห่ง มีพิพิธภัณฑ์และหอศิลปกรรม

การศึกษา

        ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษและเครือจักรภพแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับอาชีวศึกษา และระดับปริญญา การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ปีไปถึง 16 ปี เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ประมาณ 95% จะเข้าศึกษาในโรงเรียนของรัฐบาล ส่วนผู้ปกครองที่มีฐานะดีและมีรสนิยมมักจะเลือกส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน โดยนักเรียนจากประไทศไทยมีสิทธิเรียนในโรงเรียนเอกชนเท่านั้น

  • ระดับอาชีวศึกษา (Further Education)

 เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีไปแล้วไม่ประสงค์จะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แต่ต้องการจะมีคุณวัฒิทาง                 วิชาชีพต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบสายอาชีพ นอกจากนี้ยังเปิดสอนวิชาสามัญคือ GCSE และ GCE “A” Level สถาบันการศึกษาด้าน         อาชีวศึกษามีทั้งของรัฐบาลและเอกชน

สถาบันอาชีวศึกษาของรัฐบาล มีประมาณ 500 กว่าแห่ง หลักสูตรที่จัดสอนได้แก่ วิชาบริหารธุรกิจ การโรงแรม วิศวกรรมศาสตร์ ช่าง          เทคนิค การเกษตร ฯลฯ

ในอังกฤษและเวลส์ การศึกษาระดับอาชีวะจะได้วัฒิบัตรจาก Business and Technician Education Council (BTEC) ส่วนในสก๊อต         แลนด์ได้วุฒิบัตรจาก Scottish Vocational Education Council (SCOTVEC) แบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้

1.   First Certificate/Diploma (FC/FD) เป็นการศึกษาในระดับที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้ที่จบการศึกษาจากโรงเรียน (อายุเกิน 16 ปี) โดยได้รับประกาศนียบัตร GCSE เพียงไม่กี่วิชาหรือไม่ได้รับเลย ซึ่งต้องการจะหางานทำในสายวิชาชีพต่างๆ หลักสูตรการศึกษา 1 ปี เมื่อจบแล้ว สามารถเรียนต่อในระดับสูงขึ้นได้อีก

2.   National Certificate/Diploma (NC/ND) เป็นการศึกษาในสายวิชาชีพที่มีคุณวุฒิสูงขึ้นจาก FC/FD ใช้เวลาเรียน 2 ปี โดยรับผู้ที่มีคุณวุฒิ FC/FD หรือประกาศนียบัตร GCSE อย่างน้อย 4 วิชา ผู้ที่จะจบระดับ NC/ND นี้ นอกจากมีวุฒิบัตรวิชาชีพแล้วยังเทียบได้กับ GCE “A” Level ด้วยซึ่งหากได้คะแนนดีมาก สามารถสมัครเรียนระดับปริญญาตรีได้

3.   Higher National Certificate Diploma (HNC/HND) เป็นการศึกษาในระดับสูงสุดของระดับอาชีวศึกษา หลักสูตร 2 ปี ซึ่งถือว่าระดับนี้เป็นการศึกษาใยนระดับอุดมศึกษา (Higher Education) ด้วยเช่นกัน รับผู้ที่จบการศึกษา NC/ND หรือผู้มีคุณวุฒิ GCSE 3 วิชา + GCE “A” Level 1วิชา ผู้ที่จบหลักสูตรรี้ถือว่า ได้มีคุณวุฒิสูงกว่าอนุปริญญาของไทยแต่ต่ำกว่าปริญญาตรี 1 ชั้น นอกจากนี้ หากประสงค์จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีก็สามารถทำได้ โดยใช้เวลาศึกษาอีก 2 ปี แต่ทั้งนี้ผลการเรียนต้องดีเด่น

สถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน ส่วนใหญ่มอบเพียงประกาศนียบัตร ดังนั้นสำหรับ สถานศึกษาเอกชนจึงควรเลือก สถานศึกษาที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก The British Accreditation Council for Further and Higher Education (BAC) ซึ่งเป็นหลักประกันว่ามีมาตรฐานการเรียนการสอนที่เชื่อถือได้

  •  ระดับอุดมศึกษา

 ได้แก่การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย และ College of Higher Education ปัจจุบันมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักนมีประมาณกว่า     100 แห่ง เป็นของรัฐบาลเกือบทั้งหมด ยกเว้น University of Buckingham ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียว (Polytechnic ใน สหราชอาณาจักรขณะนี้ได้ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยทั้งหมดแล้ว ซึ่งรวมอยู่ใน 80 แห่งดังกล่าวแล้ว) สำหรับ College of Higher Education มีประมาณ 243 แห่ง หลักสูตรการศึกษาในระดับอุดมศึกษาแบ่งเป็น

      1.   Undergraduate

  • BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip.HE) หลักสูตร 2 ปีส่วนใหญ่เปิดสอนใน College of Higher Education และอาจมีในมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับผู้ที่สอบ “A” Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma วิธีการสมัครต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับปริญญาตรี
  • First Degree (Bachelor Degree) หลักสูตรส่วนใหญ่ 3 ปี ยกเว้นบางสาขา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรม (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี) ปริญญาที่ให้ได้แก่ Bachelor of Arts (BA), Bachelor of Sciences (B.Sc),  Bachelor of Education (B.Ed), Bachelor of Engineering (B.Eng)

     

     การสมัครเข้าศึกษาปริญญาตรี

  • General Requirement (คุณสมบัติทั่วไป) คือได้รับประกาศนียบัตร GCSE และ GCE “A” Level ในรูปแบบใดแบบหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 5 วิชา GCSE 3 วิชา + “A” Level 2 วิชา หรือ GCSE 1 วิชา +  “A” Level 3 วิชา
  • Course Requirement  เป็นการกำหนดคุณสมบัติให้แคบลงสำหรับผู้สมัครในสาขาวิชาต่างๆ เช่น จะสมัครเข้าเรียนในสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์โยธา จะกำหนดว่าต้องสอบ A-Level วิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และ GCSE วิชาภาษาอังกฤษ ในการสมัครเข้าศึกษาวิชาเดียวกัน แต่ต่างมหาวิทยาลัย ก็อาจจะกำหนดคุณสมบัติเฉพาะแตกต่างกัน
  • อายุของผู้สมัคร ในบางสถาบันจะกำหนดอายุขั้นต่ำของผ็สมัคร โดยปกติจะกำหนดไว้อย่างต่ำ 17 ปี บางแห่งอาจจะกำหนด 18 ปี

การสมัครในระดับปริญญาตรีสำหรับนักเรียนไทย ที่จบ ม.6    นักเรียนไทยที่สำเร็จ ม.6 แล้วยังไม่สมารถสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในระบบของสหราชอาณาจักรได้ เนื่องจากการสมัครต้องใช้ผลการสอบ GCSE และ GCE “A” Level แต่ทางสหราชอาณาจักรเทียบวุฒิ ม.6 ของไทยเท่ากับ GCSE นักเรียนไทยมีโอกาสไปศึกษาต่อโดยใช้ทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง ดังต่อไปนี้

  • ไปศึกษา GEC “A” Level ในสถานศึกษาประเภท Tutorial College และสอบ GCE “A” Level ให้ได้ 2-3 วิชา ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทางเลือกวิธีนี้ทำให้นักเรียนเสียเวลาเรียนมาก แต่นักเรียนสามารถใช้วุฒิดังกล่าวสมัครมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรได้ทุกแห่ง ทั้งนี้สถานศึกษาจะตอบรับหรือไม่ขึ้นอยู่กับคะแนนการสอบ “A” Level
  • เรียนหลักสูตร Foundation year หรือ Access หรือ Bridging Course ใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี หลักสูตรดังกล่าว สถานศึกษาหลายแห่งในสหราชอาณาจักรจัดเป็นหลักสูตร พิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ที่มีระบบการศึกษาแตกต่าง จากระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร) เพื่อเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษและวิชาการให้แก่นักศึกษาต่างชาติ ในการเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีโดยไม่ต้องสอบ GCE “A” Level หากสอบผ่านหลักสูตรนี้แล้วมหาวิทยาลัยและ College of Higher Education บางแห่งก็จะรับเข้าศึกษาในระดับ ปริญญาตรีต่อได้

      2.   Post – Graduate

การศึกษาที่สูงกว่าปริญญาตรีมี 3 ระดับ

  • Post Graduate Certificate Diploma หลักสูตร 9 เกือนถึง 1 ปี รับผู้สำเร็จปริญญาตรี
  • Master Degree หลักสูตร 1-2 ปี รับผู้สำเร็จปริญญาตรี ที่มีผลการเรียนดี ปริญญาที่ให้ได้แก่ M.Sc, M.A., M.BA., M.Phil (มหาวทิยาลัยเกือบทุกแห่งรับปริญญาตรี เกียรตินิยม)
  • Doctoral Degree หลักสูตรการทำวิจัยใช้เวลา 3 ปี ปริญญาที่ให้ได้คือ Doctor of Philosophy(Ph.D/D.Phil) มหาวิทยาลัยส่วนมากรับผู้ผ่านการศึกษาหลักสูตร M.Phil

ปีการศึกษา

       ภาคการศึกษาของสถานศึกษาทุกระดับในประเทศอังกฤษ เริ่มต้นภาคแรกในราวๆปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคมของปีหนึ่งและสิ้นสุดราวๆปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฏาคมของปีถัดไป ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ภาคคือ

·                -    ภาคต้น Autumn Term ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนฮันวาคม

·                -    ภาคกลาง Spring Term  ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมีนาคม

·                -    ภาคปลาย Summer Term ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนกรกฏาคม

ที่พักอาศัย

        โดยทั่วไปสถานศึกษาให้คำแนะนำเรื่องที่พักหรือช่วยดำเนินการจัดหาที่พักให้นักเรียนต่างชาติ ดังนั้นควรเลือกที่พักที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองให้มากที่สุด ลักษณะของที่พักมีหลายประเภทให้เลือก

  • Family การพักกับครอบครัวชาวอังกฤษเหมาะสำหรับนักเรียนที่มีอายุน้อยเพราะนักเรียนต้องทำตัวเสมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว นักเรียนจะมีห้องพักเป็นของตนเอง แต่ใช้ห้องน้ำรวมกับสมาชิกในครอบครัวและต้องการคนดูแลบ้าน จัดซักเสื้อผ้าให้ โดยทั่วไปนักเรียนจะรับประทานอาหารมื้อเย็นพร้อมกับเจ้าของบ้าน ทำให้มีโอกาสได้ฝึกฝนภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรมในครอบครัวแบบอังกฤษ แต่ละครอบครัวจะมีกฎบังคับที่เรียกว่า House Rules ซึ่งนักเรียนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น การพาเพื่อนมาที่บ้าน กลับบ้านให้ทันเวลาอาหารเย็น ถ้าไม่ทันต้องโทรมาแจ้งล่างหน้า หรือการไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่นเครื่องซักผ้า เป็นต้น
  • Lodging – นักเรียนจะมีห้องพักเป็นส่วนตัวค่อนข้างอิสระ ลักษณะเหมือนห้องแบ่งเช่า นักเรียนต้องจัดหาอาหารรับประทานอาหารเอง หรืออาจรับประทานร่วมกับเจ้าของบ้านแล้วแต่จะตกลงกัน
  • Student residence –  หอพักในมหาวิทยาลัยเลือกได้ 2 แบบ คือ ห้องเดี่ยว และ ห้องคู่ มี 2 ประเภท คือ หอพัพร้อมอาหาร หรือ แบบปรุงอาหารท่านเอง โดยภายในหอพักจะมีตู้เย็น และ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการปรุงอาหารให้นักศึกษาสามารถปรุงอาหารรับประทานเองได้ โดยใช้ร่วมกับเพื่อนที่พักในชั้นเดียวกัน ลักษณะห้องนอนจะมีเตียง โต๊ะเขียนหนังสือและตู้ใส่เสื้อผ้า ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม และทุกชั้นจะมีห้อง Common Room หรือห้องนั่งเล่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น อุปกรณ์ซักรีด ห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ห้องออกกำลังกาย

 

Riannok (เรียนนอก) แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศครบวงจร..บริการฟรี !!

184/16 อาคาร Forum Tower ชั้น 11 ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

Office :  02-645 2041-2

 Hotline :  091-789 7859

Line ID  riannok 

E-mail : tiedu@riannok.com | Website : www.riannok.com | Facebook : www.facebook.com/Riannok